ออกแบบ

จับเทรนด์ฮิตจากโซเชียล #Cottagecore ออกแบบสินค้าและบริการ สร้างความแตกต่างอย่างน่าสนใจ

เชื่อว่าถ้าเอ่ยถึง เทรนด์ฮิตข้ามปีจากโซเชียล #Cottagecore หลายคนอาจยังสงสัยว่า เป็นเทรนด์เกี่ยวกับอะไร แล้วเทรนด์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงมาแรงข้ามปีได้เช่นนี้?

เพื่อไขข้อสงสัยนี้ เราขอนำบางส่วนจากบทความ จาก BBC The Collection ได้อธิบายถึงปรากฎการณ์ #Cottagecore ไว้ว่า

“ในช่วงที่ทั่วโลกจมอยู่กับบรรยากาศของการล็อคดาวน์ ปรากฎการณ์หนึ่งก็ได้อุบัติขึ้นบนฟีดอินสตาแกรม เมื่อหน้าฟีดเต็มไปด้วยภาพของสวนดอกไม้ ที่มีกระท่อมหลังน้อยเป็นฉากหลัง มีแสงดวงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องกระทบมา และในภาพอื่น อาจเปลี่ยนฉากทัศน์นี้เป็น ทางเดินไม้ มีต้นไม้ ดอกไม้ น้อยใหญ่เติบโต ร่มรื่น และบนผืนหญ้ามีเสื่อปูพร้อมชุดปิ๊กนิกเรียบง่าย เป็นชา ขนมปัง เบเกอรี่โฮมเมด ส่วนคนอยู่ในภาพนั้น ชุดที่สวมใส่ก็จะเป็นสีเอิร์ธโทน ถ้าเป็นเดรสผู้หญิงก็จะเป็นเอวสม็อก ปักลายสตอว์เบอรี่หรือผีเสื้อ ให้ความรู้สึกเหมือนฟุ้งอยู่ในโลกแห่งความฝันอย่างไรอย่างนั้น”

“ที่บรรยายมานี้ ก็เพื่อให้เห็นภาพของเทรนด์ Cottagecore ที่เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์กำหนดนิยาม “ความสวยงาม” ในปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งมาถึงปี 2021 นี้ ความนิยมก็ยังไม่ตก และว่ากันว่า เทรนด์นี้จะคงอยู่ยาวนานจนยกระดับเป็นปรัชญาแห่งความสุข อย่าง ‘ฮุกกะ’ (Hygge) หรือ ไลฟ์สไตล์การเอนจอยชีวิตที่มีความสุขข้างนอกบ้าน อย่าง friluftsliv หรือ ฟรีลุฟท์สลิฟ ของทางฝั่งสแกนดิเนเวียเลยก็ว่าได้”

ดังที่ได้เกริ่นว่า เทรนด์ #Cottagecore ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ ดังนั้น หากผู้ประกอบการไทย สามารถจับทางเทรนด์นี้ และผสานให้อยู่ในการออกแบบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ย่อมสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ไม่ยากเลย

มาถึงตอนนี้ หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพว่าเทรนด์ Cottagecore จะปรับเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าให้สินค้านั้นอินเทรนด์ได้อย่างไร ทาง สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) จึงออกมาแนะนำแนวทางในการ “จับเทรนด์ฮิตจากโซเซียล Cottagecore สร้างรายได้รูปแบบใหม่” โดยชี้ให้เห็นถึงการนำเทรนด์ความงามแห่งยุคนี้ไปปรับใช้ว่าทำได้กับสินค้าประเภทใดบ้าง

“Cottagecore หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Farmcore หรือ Countrycore เป็นสุนทรียศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตเกษตรกรตะวันตกที่เน้นแนวคิดเกี่ยวกับชีวิตที่เรียบง่ายและมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเทรนด์โซเชียลมีเดียที่กำลังมาแรงแบบฮิตติดเทรนด์โลกไปแล้ว”

“เทรนด์ Cottagecore จึงกลายเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ทั้งสินค้าและบริการด้านแฟชั่นการแต่งกาย การตกแต่งบ้าน สื่อบันเทิง รวมไปถึงธุรกิจบริการ ได้แก่ การดูแลสุขภาพและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้เช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในด้านการพัฒนาด้านบริการ และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลยุทธ์ต่างๆที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย”

“โดยจากการวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคและโอกาสทางธุรกิจจากเทรนด์ที่เกิดจากโซเชียลมีเดีย พบว่าเทรนด์ Cottagecore ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในแฟลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Tumblr, Tiktok และ Instagram”

“ข้อมูลจากเว็บไซต์ The British Broadcasting Corporation (BBC) ระบุว่า ในปี 2563 แฮชแท็ก (Hashtag) #cottagecore ใน Tumblr มีการใช้งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 153 จำนวนยอดกดไลค์โพสต์ (Post) เกี่ยวกับ Cottagecore เพิ่มขึ้นร้อยละ 500 ขณะที่ยอดเข้าชม #cottagecore ใน Tiktok มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 5.3 พันล้านครั้ง ส่วนจำนวนโพสต์ที่ติด #cottagecore ใน Instagram มีจำนวนมากถึง 1.3 ล้านโพสต์”

Cottagecore จึงไม่ใช่แค่เทรนด์ใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่การเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เทรนด์ดังกล่าวกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ประกอบกับความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และความเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่สามารถเดินทางได้อย่างอิสระ ทำให้เกิดความต้องการที่จะหลบหนีจากสภาวะเหล่านั้น และสนใจวิถีชีวิตความงามแบบเรียบง่าย ให้ความรู้สึก Back to basic มากขึ้น

ผู้อำนวยการ สนค. แนะนำเพิ่มเติมว่ากระแสความนิยมของเทรนด์ Cottagecore สามารถปรับเข้ากับการออกแบบสินค้าและบริการ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในกลุ่มสินค้าและบริการต่อไปนี้

เสื้อผ้าสไตล์ Cottagecore มีลักษณะเป็นเดรสและเสื้อผ้าที่ใส่สบาย มีลายดอกไม้หรือลายตาราง (Gingham) มีเครื่องประดับเป็นผ้าโพกผม หมวกปีกกว้าง (Floppy hat) หมวกฟาง (Straw hat) กระเป๋า/ตะกร้าสาน โทนสีจะเป็นโทนสีธรรมชาติ

นอกจากนี้ ยังมีอิทธิพลต่อแฟชั่นเครื่องแต่งกายสำหรับงานแต่งงานเช่นกัน ซึ่งเวปไซต์ insider และ BRIDES ก็ได้มีการจัดอันดับให้ Cottagecore เป็นหนึ่งในเทรนด์ยอดนิยมของชุดแต่งงานในปี 2564 ที่ผ่านมา แบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกก็ได้มีการนำ Cottagecore ไปประยุกต์กับผลงานการออกแบบเสื้อผ้าด้วย

ยกตัวอย่าง เสื้อผ้าแบรนด์ Jacquemus ได้จัดโชว์สปริงซัมเมอร์กลางทุ่งลาเวนเดอร์ หรือแม้แต่แบรนด์ Dior ก็ได้ออกแบบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ที่มีกลิ่นอายของดอกไม้กลางทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของ Cottagecore มาต้อนรับ ฤดูกาล Spring 2020 ด้วยเช่นกัน

Cottagecore กลายเป็นหนึ่งเทรนด์ฮิตในวงการตกแต่งภายใน (interior design) ของปี 2564 โดยบ้านสไตล์นี้จะมีลักษณะเฉพาะแบบกระท่อมฝั่งตะวันตก ขนาดกะทัดรัด ทำจากวัสดุธรรมชาติ การตกแต่งก็จะเน้นความเรียบง่ายสบายๆ โทนสีที่นิยมใช้จะเป็นสีเอิร์ทโทน ซึ่งในประเทศไทยก็มีให้เห็นอยู่มากในบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท คาเฟ่ หรือร้านกาแฟ

โดยเว็บไซต์ สินค้าตกแต่งบ้านอย่าง COTTO ได้หยิบเอาเทรนด์ Cottagecore มาแนะนำเป็นหนึ่งในสี่เทรนด์การแต่งบ้าน ประจำปี 2021 ในนิยาม “หนีความวุ่นวายด้วยการแต่งบ้านสไตล์ COTTAGECORE”

“สำหรับใครที่โหยหาความสงบ และอยากได้สไตล์บ้านที่ชวนให้นึกถึงอดีตอันสวยงาม รับรองว่าคุณจะต้องชอบการแต่งบ้านสไตล์ COTTAGECORE ที่ผสานเอาการแต่งบ้านสไตล์กระท่อมชานเมือง มีกลิ่นอายของธรรมชาติ ซึ่งเป็นอีกเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2021”

ด้วยความที่สไตล์ COTTAGECORE มีเอกลักษณ์ คือ ความเรียบง่าย อบอุ่น แต่ยังสามารถผสมผสานความมีสไตล์ ผ่านการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ได้ โดยการจะเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้านสไตล์ COTTAGECORE สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ตกแต่งผนังด้วยดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้จริง ดอกไม้แห้ง หรือภาพวาดดอกไม้ก็สามารถนำมาเพิ่มบรรยากาศกระท่อมชานเมืองได้ครับ

• เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน จะปลูกต้นไม้จริงในกระถาง หรือตกแต่งด้วยเถาวัลย์ปลอมตามผนัง ก็สามารถช่วยเพิ่มบรรยากาศและความผ่อนคลายสไตล์ COTTAGECOR ให้กับบ้านได้

• เพิ่มลวดลายดอกไม้ให้กับของใช้ เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน หรือของใช้อื่น ๆ

• ตกแต่งโต๊ะด้วยแท่งเทียนไข และชุดน้ำชา แต่อย่าลืมเลือกลวดลายของจาน กาน้ำ และแก้วน้ำให้เข้ากับบรรยากาศสุดผ่อนคลายภายในบ้านนะครับ

• เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เก่าหรือของตกแต่งสไตล์วินเทจ โดยนำไปวางไว้ตามมุมต่าง ๆ อาจจะเป็นกล้องเก่า โซฟา หรือโคมไฟ เป็นต้น เพราะของเก่าๆ เหล่านี้ จะช่วยเปลี่ยนให้บ้านของเรามีกลิ่นอายแห่งความอบอุ่น แบบสไตล์บ้านชานเมือง

Cottagecore ถูกนำมาใช้เป็นคอนเทนต์ (Content) สำหรับสื่อบันเทิงหลายรูปแบบทั้งหนังสือที่ใช้การพรรณนาเรื่องรายโดยใช้บรรยากาศในชนบทเป็นฉาก อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่บอกเล่าผ่านการแสดง เครื่องแต่งกาย สถานที่ และอุปกรณ์ประกอบต่างๆ รวมถึงวงการเพลง คลิปวิดีโอใน Youtube ตลอดจนวงการการ์ตูนและอนิเมะ (Anime)

ทั้งนี้ ผอ.สนค. ได้กล่าวสรุปว่าสินค้าและบริการของไทยมีจุดแข็งหลายด้านที่จะหยิบกระแส Cottagecore มาพัฒนาสินค้าและบริการต่อเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ทั้งกิจการที่พัก ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ ที่ปรับเอา Cottagecore มาออกแบบสถานที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ มีความเป็นชนบท ซึ่งสามารถเติมเต็มความประทับใจให้ผู้บริโภคที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติได้ รวมถึงสามารถนำไปต่อยอดสร้างโอกาสสำหรับธุรกิจบริการดูแลสุขภาพ หรือ “Wellness” และธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellnes Tourism) ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพได้เช่นกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *